วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2559

โปรเจคบ้านเลขที่ 45 : ตอนพิเศษ​ ตกแต่งบ้านยังไงให้สวย และใช้งานได้จริง ดีนะ ?


สร้างบ้านให้แข็งแรง ได้มาตรฐานว่ายากแล้ว
สร้างบ้านให้สวยงาม และน่าอยู่นั้นยากกว่ามาก !!!


ก่อนที่จะวาดแบบเราอาจจะบอกความต้องการของเราให้ทางสถาปิกทราบเบื้องต้นแล้ว เช่น อยากได้บ้านแนว Modern , Contempolary หรืออื่นๆ

รวมถึงวางตำแหน่งหน้าที่ของแต่ละห้องไว้เแล้ว ว่าจะทำเป็น ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องทำงาน ห้องรับแขก เป็นต้น

แต่เมื่อบ้านไกลเสร็จเราต้องมาลงรายละเอียดแล้วว่า แต่ละห้องจะจัดวางเฟอร์นิเจอร์ตรงไหน ตกแต่งภายในแต่ละห้องยังไง รวมถึงการตกแต่งพื้นที่ส่วนกลางให้สอดคล้องกับบ้านทั้งหลัง

สำหรับคนที่มีทุนทรัพย์อยู่มาก อาจจะตัดปัญหาโดยการจ้าง Interior Designer มาช่วยออกแบบห้อง หรือ บ้านทั้งหลังให้

แต่สำหรับผม ที่ไม่กำลังทรัพย์มากพอ เลยต้องออกแบบเอง 55+

บางท่านอาจจะคิดว่า ไม่จำเป็นต้องคิดมากหรอก เดียวบ้านออกมาแล้วค่อยว่ากันทีหลังก็ได้ แต่นั้นเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องนักนะครับ เพราะจริงๆ หลายๆ อย่างจะสอดคล้องกันไปหมด

แล้วต้องคิดถึงเรื่องอะไรบ้างละ ไม่เห็นจะมีอะไรเลย ?


สำหรับบางคนอาจจะมองว่าการตกแต่งบ้านไม่มีอะไรเลย เรื่องง่ายๆ ส่วนใหญ่คนที่บอกแบบนี้น่าจะยังไม่เคยแต่บ้านเอง หรือ แต่งบ้านแบบจริงๆ จัง 55+

มาดูกันครับ ถ้าจะตกแต่งบ้านให้สวยเราต้องดูถึงอะไรกันบ้าง
- ตำแหน่งการจัดวางเฟอร์นิเจอร์
- ตำแหน่งของประตูหน้าต่าง
- รูปแบบของประตูหน้าต่าง (ต้องสอดคล้องกับการตกแต่ง)
- วัสดุของประตู หน้าต่าง (Aluminuim, UPVC, WPC และอื่นๆ)
- ขนาดของประตู หน้าต่าง
- วัสดุตกแต่ง (กรุ)ผนัง
- งานฝ้า
- งานไฟ และแสงสว่าง
- แสงแดด และทิศทางลม
- งบประมาณ !!!

เห็นไหมครับการแต่งบ้านให้สวย และใช้งานได้ พ่วงมาหลายเรื่องนะครับ

เฟอร์นิเจอร์เดียวค่อยคิดก็ได้ว่าจะวางไว้ตรงไหน


อันนี้ไม่ถูกต้องนะครับ ควรจะวางตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์ไว้ก่อน เช่น ปัญหาที่ผมเจอมากับตัวเลย คือ ตามแบบแปลนวางหัวเตียงไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งถ้าคนที่ถือเรื่องทิศ ด้านนี้เป็นด้านที่ไม่สมควรหันหัวนอนไปอย่างยิ่ง

"งั้นก็หันไปทางอื่น หรือ ย้ายที่สิ"

แน่นอนครับ ต้องทำแน่ๆ แต่หลังจากย้ายที่แล้ว ผนัง หน้าต่าง หรือ ประตู ต้องเปลี่ยนแปลงตามด้วยไหม ?

ถ้าผนังยังไม่ได้ก่อก็ดีไป แต่ถ้าถ้าทำไปแล้วก็งานเข้าละครับ จะทุบหรือจะปล่อยไปก็ต้องว่ากันหน้างานละ

แต่ถ้าหากเราวางตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์ไว้อย่างดีแล้ว เราก็จะสามารถปรับรูปแบบพื้นที่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เหมาะสมกับการใช้งาน

ประตู หน้าต่าง ตั้งวงกบ ทำทับหลังไปแล้วเปลี่ยนที่ ไม่ได้นะ


สำหรับการตั้งวงกบประตูหน้าต่างที่ทำจากไม้ จะต้องฝังวงกบไว้ตั้งแต่ตอนก่อกำแพงเลยครับ เพราะฉะนั้นหากเราจะลังเล หรือมาเปลี่ยนตอนหลังนี้จะยากมาก สำหรับผมเลือกใช้ ประตูไม้ แต่หน้าต่างเป็นอลูมิเนียมซึ่งข้อดีคือนำมาติดตั้งตอนหลังได้เลยไม่ต้องติดวงกบไว้ก่อน และที่สำคัญผมอยากแต่งบ้านเป็นแนว Modern อยู่แล้ว

ประตู หน้าต่าง ขนาดไหนก็ได้วางๆ ไปเถอะไม่ซีเรียส 


ถ้าไม่ซีเรียสก็ดีไปครับ 55+ แต่สำหรับคนที่ซีเรียสเช่นผม ผมอยากได้ประตูในบ้านขนาดใหญ่ครับ เพราะอยากให้บ้านโปร่ง ดูไม่อึดอัด ถ้าใช้ประตู หรือ หน้าต่างขนาดมาตรฐาน ไม่น่าจะตอบโจทย์ผมได้
ผมจึงออกแบบโดยใช้ ประตูขนาด 90 x 200 ม. ขึ้นไป โดยบางบานใช้ขนาด 100 x 200 ม. เลยทีเดียว

โดยด้านหน้านี้จะเน้นหน่อยใช้ขนาดพิเศษ คือ 2 x 2.40 ม. เป็นบานคู่

ความสูงของหน้าต่างออกแบบให้มีความสูง คือ 2.40 ม. เพื่อให้โปร่งโล่งไม่อึดอัด และกำหนดให้สูงเท่ากันทั้งหลัง เพื่อเวลาดูภาพรวมแล้วจะได้เท่ากันข้างหลัง ช่างก็จะทำทับหลังง่ายด้วยไม่สับสนเรื่องความสูง

บ้านเลขที่ 45 แอบมีพิเศษเรื่องวงกบอยู่นิดหน่อย คือ บ้านปกติทั่วไป จะใช้วงกบขนาด 4" แต่เพราะผมเลือกใช้อิฐมวลเบาหนา 10 cm มาก่อผนัง ซึ่งรวมฉาบแล้วก็ 12 cm หรือ 5" เพื่อให้วงกบกับกำแพงเสมอกันผมเลยจัดวงกบ 5" ทั้งหลังเลยครับ ซึ่งราคาก็แพงกว่า 4" เยอะเลย T-T


ตกแต่งสไตล์ไหน ? แบบไหน ? ต้องวางแผนไว้แต่แรก


ลองนึกถึงถ้าเราอยากได้ห้องนอนสไตล์โมเดริน หน้าตาแบบนี้



แต่ช่างก่อหน้าต่างให้เราเป็นทรงมาตรฐานทั่วไป บอกได้เลยมาแต่งที่หลังยังไงก็ไม่สามารถทำได้ครับ ต้องทุบทำใหม่อย่างเดียว เสียทั้งเวลา เสียทั้งเงิน

เพราะฉะนั้น ออกแบบห้องให้ลงตัวก่อนนะครับ ค่อยให้ช่างก่อกำแพงนะครับ

งานฝ้า กับ งานไฟต้องเดินไปด้วยกัน วางแผนเรื่องแสงสว่างให้ดี


ถึงแม้ว่าช่างไฟ กับ ช่างฝ้า จะเป็นคนละทีมกัน แต่...

ทั้ง 2 ทีมนี้ต้องทำงานพร้อมกันนะครับ เพราะ

ไฟต้องเดินบนฝ้า และฝ้าก็ต้องเจาะช่องใส่หลอดไฟ โดยเฉพาะยิ่งถ้า ทำฝ้ายื่น ฝ้าหลุม ที่ติดตั้งไฟซ่อน ไว้บนฝ้านี้ยิ่งต้องวางแผนกันดีๆ เลย

ในแต่ละห้องเราต้องวางจุดที่จะติดตั้งหลอดไฟไว้ เพื่อให้ช่างไฟเดินสายไฟรอไว้บนฝ้า ถ้าปิดฝ้าไปแล้วจะมาเดินสายไฟที่หลังจะยุ่งยากและไม่เรียบร้อยด้วย

ยังไงก็ต้องมั่นใจด้วยนะครับว่าแสงไฟที่ติดไว้เพียงพอ ไม่งั้นมาเพิ่มทีหลังจะลำบาก



วางตำแหน่งหน้าต่างไม่คิด ชีวิตจะมืดมน


หน้าต่าง ไม่ใช่ว่าจะวางตรงไหนก็ได้นะครับ เราต้องดูปัจจัยภายนอกด้วย เช่น แสง และ ลม

แนะนำว่าให้ใช้เวลามาสำรวจหน้างานสัก 1 วันครับ คอยดูตั้งแต่เช้า ยัน เย็นเลย ว่าแสงแดดส่องมาทางไหนบ้าง และลมพัดยังไงบ้าง ไม่เช่นนั้น

อาจจะมีการทำช่องแสงไว้ แต่ด้านนั้นไม่มีแสงเข้าเลยทั้งวัน แล้วจะทำช่องแสงเพื่อ ?

อยากให้บ้านมีลมพัดเย็นสบายๆ แต่ตั้งกำแพงขวางทางลม แถมด้านนั้นไม่มีหน้าต่างอีกตะหาก

อยากให้บ้านเย็น อย่าลืมวางหน้าต่างไว้ 2 ด้าน 


ตามธรรมชาติการไหลของอากาศ จะต้องไหลไปทางเดียวไม่ย้อนกลับ ถ้าเราวางหน้าต่างให้เป็นทางเข้า และทางออก ไว้ในด้านตรงข้ามกัน จะทำให้ลมพัดได้อย่างเป็นธรรมชาติ บ้านจะไม่ร้อนและมีอากาศสดชื่น หรือมี Active Air Flow ที่ดีนั้นเอง

เมื่อลมพัดผ่านตลอด บ้านก็จะไม่ร้อน และไม่ต้องเปลืองไฟเปิดเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา




ปล. ภาพประกอบจาก Google.com , Pintersest.com



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น